วันอาทิตย์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ลดน้ำหนักช้าๆ ไม่โยโย่

  • กินอาหารครบทุกมื้อ

การอดอาหารเป็นวิธีลดความอ้วนที่ผิด หากไม่กินอาหารเป็นเวลานานติดต่อกัน แล้วกลับมากินแบบปกติจะทำให้เกิดอาการโยโย่ หรือน้ำหนักจะเด้งกลับมามากกว่าเดิมอีกด้วยค่ะ


โดยเฉพาะมื้อเช้าซึ่งเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน ถือว่าเป็นมื้ออาหารที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง เพราะการรับประทานอาหารเช้า นอกจากจะช่วยให้ร่างกายมีเรี่ยวแรง ช่วยให้สมองมีประสิทธิภาพดีขึ้นแล้ว ยังช่วยให้ไม่อ้วนง่ายเมื่อเทียบกับคนที่ละเลยมื้อเช้า




และที่สำคัญคือห้ามอดอาหารมื้อเย็น โดยให้เลือกรับประทานอาหารจำพวกผักและผลไม้แทน หรือเลือกทานผักและผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง เช่น ผักกระเฉด ผักบุ้ง คะน้า ถั่วงอก ตำลึง มะม่วงดิบ มะละกอ ฝรั่ง และเสริมด้วยธัญพืช เช่น พืชตระกูลถั่ว ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ

ซึ่งจะช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรอล และลดความดันโลหิต ซึ่งจะลดความเสี่ยงโรคหัวใจและป้องกันโรคมะเร็งได้อีกด้วย

วันศุกร์ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ดื่มชาเขียวอย่างไรให้ผอม



ชาเขียว มีสารคาเทชิน (Catechin) ซึ่งมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน

ถ้าดื่มเป็นประจำจะช่วยลดไขมันในร่างกายได้ โดยสามารถดื่มหลังมื้ออาหารทุกมื้อ นอกจากจะช่วยลด
 ไขมันแล้ว ยังมีส่วนช่วยลดการทานจุบจิบซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อ้วนได้อีกด้วย

วันพุธที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2562

เทคนิคลดความอ้วน สำหรับสาวออฟฟิศ

1. ปรับพฤติกรรมการกิน


จะขนมห่อ ชาไข่มุก หรือเครื่องดื่มหนักน้ำตาล แต่มีประโยชน์น้อยมาก หากชอบกินก็ควรปรับลดลงและเลิกให้ได้ เพราะของเหล่านี้มักจะพ่วงโซเดียมและน้ำตาล ซึ่งจะทำให้ร่างกายเกิดอาการบวมน้ำและสะสมไขมัน เพิ่มความเสี่ยงโรคต่าง ๆ ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินในแต่ละมื้อให้สมดุล เช่น การกินมื้อเช้าให้อิ่ม เลือกอาหารที่มีประโยชน์ กินโฮลเกรนแทนการกินขนมปังหวาน หรือกินข้าวกับผักและโปรตีนต่าง ๆ เพื่อร่างกายและสมองจะได้มีแรงทำงานได้ทั้งวัน ส่วนมื้อกลางวันก็เบาลง เพราะการกินมื้อกลางวันหนัก ๆ จะทำให้เกิดอาการง่วงและเฉื่อยได้ ซึ่งสาวออฟฟิศส่วนใหญ่จะปลุกตัวเองด้วยขนมและเครื่องดื่มตอนบ่าย ๆ ให้เปลี่ยนเป็นผลไม้ เช่น ฝรั่ง แตงโม ชมพู่ หรือกีวี่จะดีกว่า นอกจากจะอิ่มท้องแล้ว ยังช่วยเรื่องผิวได้ด้วย ส่วนมื้อเย็น ถ้าเลิกเดินเข้าร้านบุฟเฟ่ต์ได้จะดีมาก ลองมองหาผักมาทำสลัด หรือกินยำแทนข้าวหรือของทอดจานโตแทน
 
2. ดื่มน้ำเยอะ ๆ


น้ำช่วยให้กระชุ่มกระชวยขึ้น ขับสารพิษ และหากดื่มน้ำเพียงพอก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น ลองดื่มน้ำสัก 1-2 แก้วก่อนรับประทานอาหาร จะช่วยทำให้รู้สึกอิ่มและกินได้น้อยลง เมื่อเราเติมน้ำให้กับเซลล์ในร่างกายแล้ว ระบบการทำงานและการเผาผลาญก็จะเครื่องฟิตสตาร์ตติดง่ายขึ้นมา สำหรับบางคนที่ชอบดื่มชากาแฟ ก็ควรดื่มน้ำทดแทนเพราะคาเฟอีนจะขับน้ำออกจากร่างกาย ทำให้ถ่ายปัสสาวะบ่อย หลีกเลี่ยงครีมและน้ำตาลจะดีที่สุด เพราะชาและกาแฟเพียว ๆ แบบไม่ใส่ครีมและน้ำตาลช่วยเผาผลาญแคลอรี่ได้ด้วยนะ
 
3. ขยับตัว ลุกไปทำนั่นทำนี่บ่อย ๆ


ส่วนใหญ่เราจะอยู่กับคอมพิวเตอร์และการประชุมเป็นหลัก ทำให้ในแต่ละวันต้องถูกสตัฟฟ์ให้อยู่ในท่าเดิมตลอดระยะเวลา 3-6 ชั่วโมง การไม่ขยับปรับเปลี่ยนท่าเลย ไม่ได้ส่งผลแค่ร่างกายที่อ้วนฉุขึ้น แต่จะเกิดอาการปวดหัว ปวดบ่า ปวดหลัง แขนชา จนอาจกลายเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมได้ หากมีโอกาสก็ลุกขึ้นจากโต๊ะ ขยับท่าคลายกล้ามเนื้อบ้าง ลองสละเวลาสัก 5-10 นาทีทำท่าบริหารง่าย ๆ ในออฟฟิศ สมัยนี้มีข้อมูลให้อ่านกันทั่วไปในอินเทอร์เน็ต หรือจะลุกออกจากโต๊ะเดินไปเดินมา ลุกไปถ่ายเอกสารที่อีกมุมห้อง หรือลองใช้ห้องน้ำของชั้นล่างลงมาสัก 2 ชั้นแทน โดยการเดินขึ้นลงบันไดก็ช่วยได้เยอะ แต่ก็ไม่ใช่อู้งานแบบหายไปเลยทีเดียว 15-20 นาทีนะคะ เดี๋ยวงานจะไม่เสร็จแล้วคุณหัวหน้าจะเพ่งเล็งเอาได้ค่ะ

4. เลิกกินมื้อกลางวันที่โต๊ะทำงาน


การกินมื้อกลางวันไปทำงานไป หรือเล่นคอมฯ ไปไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะเราจะไม่ใส่ใจกับอาหารตรงหน้า คล้าย ๆ กับคนที่ดูหนังไปกินป๊อปคอร์นไปนั่นแหละ ที่กินป๊อปคอร์นกองโตโดยไม่รู้ตัว เรียกว่าอร่อยเพลินเกินห้ามใจ ซึ่งการใส่ใจในการกินและเคี้ยวอาหารนั้น ได้รับการยืนยันแล้วว่าช่วยลดน้ำหนักได้ ในแต่ละคำควรเคี้ยวให้นานขึ้น เพื่อให้กระเพาะทำงานเบาลง ควรเจียดเวลาอย่างน้อย 20 นาที ไปนั่งรับประทานอาหารที่ห้องครัวหรือศูนย์อาหาร อย่างน้อยก็ได้โอกาสเดินออกไปข้างนอก มีเวลาพักกลางวันตั้ง 1 ชั่วโมง ใช้ให้คุ้มค่านะคะ ใช้ให้มีแรงทำงานช่วงบ่ายต่อไปได้จนจบวันค่ะ
 
5. ใช้วันช็อปปิ้งให้เป็นวันที่เสียเหงื่อ


สาวออฟฟิศร้อยทั้งร้อยชอบช็อปปิ้ง เดินดูเสื้อผ้า เครื่องสำอางกันทั้งนั้น ไม่รู้เอาเรี่ยวแรงจากไหนไปเดินห้างนะคะ แล้วจะปล่อยโอกาสในการเบิร์นหลุดมือได้อย่างไร สาว ๆ ชอบอ้างว่า วันทำงานไม่มีเวลาและเหนื่อยเกินไปสำหรับการออกกำลังกาย แต่วันหยุดก็ชอบไปเดินช็อปปิ้งพักผ่อนใจมากกว่า ถ้าอย่างนั้นมาเบิร์นไขมันด้วยการเดินช็อปกันดีกว่าค่ะ ไอเดียง่าย ๆ เช่น เริ่มต้นวันแห่งการช็อปที่แพลทินัม (อยากช็อปแต่ก็ต้องประหยัดเป็นด้วยนะคะ) เดินทุกชั้น เข้าทุกซอย เดินดูทุกล็อค เสร็จจากนั้นก็เดินมาเซ็นทรัลเวิลด์ เดินสอดส่องไปทั้งห้าง แล้วเดินต่อไปสยามด้วยสกายวอล์ก ทะลุเข้าพารากอน สยามดิสฯ ข้ามไปสยามเซ็นฯ แล้วเดินเลาะไปถึงมาบุญครอง รับรองว่า ได้เบิร์นแคลอรี่และใช้เวลาช็อปทั้งวันอย่างคุ้มค่า ได้ดูสินค้าที่ชอบ ได้อัปเดตเทรนด์ตั้งแต่ถูกไปจนถึงแพง ๆ ด้วยนะ

การลดความอ้วน หากเรามองแค่อุปสรรคทางด้านเวลาเมื่อไหร่ก็ไม่พร้อม ถึงแม้จะนั่งทำงานทั้งวัน เราก็สามารถหักห้ามการกินที่เกินพอดี และขยับให้มากขึ้น หรือชวนเพื่อน ๆ ในทีมมาขยับออกท่าบริหารยืดกล้ามเนื้อไปด้วยกัน ก็ช่วยเพิ่มการเบิร์นไขมันได้ แต่ทางที่ดีที่สุด คือ ควรกินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะคะ

ที่มา...ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

นอนอย่างไรให้น้ำหนักลด

การอดนอน เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรากินมากขึ้นระหว่างวัน ดังนั้นจึงควรนอนให้เพียงพออย่างน้อย 7 – 9 ชั่วโมงต่อวัน เพราะนี่คือวิธีที่ง่ายและช่วยให้การลดน้ำหนักที่ได้ผลดีที่สุด!


เพราะความมหัศจรรย์ของร่างกายเราคือ ร่างกายเรามีสารควบคุมน้ำหนักอยู่ สารควบคุมน้ำหนักนี้เป็นสารพิเศษที่ร่างกายสร้างขึ้นมาได้เอง โดยไม่ต้องใช้สารอาหารใดๆ มากระตุ้น มันมีชื่อว่าฮอร์โมนแลปติน (Leptin) เซลล์ไขมันในร่างกายเราสามารถหลั่งโปรตีนฮอร์โมนชนิดนี้ที่มีชื่อว่าฮอร์โมนแลปติน  ที่ส่งสัญญาณให้สมองระงับความอยากอาหารเมื่อมีไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น พร้อมๆ กับกระตุ้นการเผาผลาญในขณะที่เรานอนหลับ




เพราะฉะนั้นหากเรายิ่งนอนหลับนานและลึก ก็จะยิ่งช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนนี้ได้ง่ายขึ้น ทำให้ร่างกายลดความอยากอาหารลง ส่งผลให้กินอาหารในปริมาณที่เหมาะสม ควบคุมการกินและมีระบบการเผาผลาญอาหารที่มีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ ว่าแค่นอนมากขึ้นก็ส่งผลให้เรากินได้น้อยลง ไม่ต้องอดให้ทรมานแต่อย่างใด


รวมถึงการไม่นอนดึก เพราะการนอนดึก เพิ่มความเสี่ยงของการรู้สึกหิว ทำให้อยากจะหาอะไรมากิน และเมื่อเรากินเสร็จก็เป็นเวลาที่เราต้องนอนจริงๆ กินแล้วนอนเลย ไม่แค่อ้วนนะคะ แต่ยังเสี่ยงเป็นโรคกรดไหลย้อนด้วย


วันอังคารที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2562

5 วิธีลดความอ้วนแบบผิดๆ

1. งดมื้อเย็น

หนึ่งในวิธีลดความอ้วนสิ้นคิด ซึ่งก่อนอื่นจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “มื้อเย็นไม่ใช่สาเหตุของความอ้วน” แต่ความอ้วนมาจากการกินที่มากเกินกว่าร่างกายจะเผาผลาญได้หมดต่างหาก ซึ่งการอดอาหารเป็นเวลานานต่อเนื่องหลายวัน จะทำให้ระบบเผาผลาญพัง และเมื่อกลับมาทานอาหารตามปกติ น้ำหนักตัวอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ  ดังนั้นที่ถูกต้องคือ ควรรับประทานอาหารให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย และเลือกแต่อาหารที่มีประโยชน์

2. เลิกกินแป้ง

การไม่รับประทานแป้ง เพราะต้องการลดน้ำหนักนั้น เป็นอีกวิธีที่ผิดอย่างมหันต์เลยทีเดียว เพราะคาร์โบไฮเดรตคือแหล่งพลังงานที่ร่างกายเรานำมาใช้สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่เช้าจนเข้านอน หากร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรตในระยะเวลาหนึ่ง อาจทำให้เกิดอาการวิงเวียน เมื่อยล้า ร่างกายอ่อนแอ ดังนั้น การงดแป้งจึงไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักที่ดีนัก แต่แนะนำให้เปลี่ยนมาทานแป้งประเภทไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ถั่วชนิดต่างๆ จะดีกว่า

3. สูตรเร่งด่วนลดความอ้วนภายใน 3-7 วัน

เรียกได้ว่าแชร์กันว่อนอินเตอร์เน็ต สำหรับสูตรตารางอาหารลดความอ้วนแบบเร่งรัด ซึ่งการรับประทานอาหารตามตารางแบบฮาร์ดคอร์นี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการอด เพราะมันไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งหากทานครบกำหนดตามสูตร น้ำหนักอาจจะลดลงก็จริง แต่มันคือน้ำในร่างกายและมวลกล้ามเนื้อที่หายไป ไม่ใช่ไขมันที่เราอยากกำจัดมันทิ้ง แน่นอนเมื่อเรากลับเข้าสู่การกินตามปกติ ร่างกายก็จะเริ่มเข้าสู่โหมดตัวบวมอีกครั้ง


4. ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อการลดน้ำหนัก

มาแรงสุดๆ ในยุคนี้ สำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มาพร้อมกับคำบรรยายสุดมหัศจรรย์ กินแล้วผอม หุ่นดี มีสรรพคุณในการดักจับไขมัน แถมยังกินอาหารอะไรก็ได้ที่อยากกิน โดยสามารถตอบโจทย์ให้กับคนที่อยากผอมแต่ขี้เกียจได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราต่างก็รู้กันอยู่แล้วว่า ยาลดความอ้วนนั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตขนาดไหน หากกินแล้วผอมถาวรจริง ยาเหล่านี้คงไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป แล้วหลายๆ โรงงานก็คงปิดตัวเจ๊งหายกันไปหมดแล้ว แต่ในเมื่อยังมีคนบริโภคยาเหล่านี้อยู่ เพราะฉะนั้นแล้ว คุณถึงได้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวังวนของโยโย่เอฟเฟค อ้วนผอม ผอมอ้วนอยู่แบบนี้

5. ชุดกระชับสัดส่วนหรือสเตย์

การใส่สเตย์รัดหน้าท้องอาจทำให้รูปร่างของคุณดูดีตอนที่ใส่อยู่ก็จริง แต่สุดท้ายแล้วคุณจะประสบปัญหา ลงพุง ได้ง่ายกว่าเดิม เพราะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวไม่ได้ถูกใช้งาน สุดท้ายแล้วก็จะเกิดอาการกล้ามเนื้อลีบ กินอะไรเข้าไปนิดๆ หน่อยๆ ก็ลงพุง บอกได้เลยว่ากล้ามเนื้อหน้าท้องของเราคือ “สเตย์ธรรมชาติ” ถ้าไม่อยากลงพุงก็ต้องบริหารกล้ามเนื้อหน้าท้อง ไม่ใช่หาอะไรมารัดไว้จนกลายเป็นกล้ามเนื้อที่ไม่ได้ใช้งาน


ดังนั้นเชื่อเถอะ ไม่มีเป้าหมายไหนที่จะสำเร็จได้โดยไม่ต้องพยายามหรอก หากคุณอยากหุ่นดี ก็ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อความฟิตแอนด์เฟิร์ม และสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง


สูตรน้ำมะนาว สลายไขมัน

เป็นกระแสฮ็อตฮิตในอินเทอร์เน็ตไม่เสื่อมคลาย สำหรับสูตรลดน้ำหนักด้วยน้ำมะนาว ที่เขาว่ากันว่าได้ผลชะงัดนักแล แต่ถ้าจะให้ได้ประโยชน์เต็มที่และดีต่อสุขภาพ มันต้องมีเคล็ดลับกันหน่อย…ก่อนอื่น รีบมองหามะนาวในครัวด่วนค่ะ!

ส่วนผสม

มะนาว 1 ลูก เกลือประมาณปลายช้อนชา น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา น้ำอุ่น 200 ซีซี

Go on Diet

1. คนน้ำตาลทรายแดงกับเกลือในน้ำอุ่นจนละลาย ทิ้งไว้สักครู่ให้น้ำเย็นลงอีกนิด
2. บีบน้ำมะนาว 1 ลูกตามลงไป
3. ควรดื่มก่อนนอนสัก 15 – 20 นาที จะทำให้ได้รับประโยชน์เต็มที่

Expert Says

เธเรซา เชียง นักเขียนผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและสุขภาพสตรี เขียนถึงคุณประโยชน์ของมะนาวไว้ในหนังสือ New Book คอลัมน์ The Lemon Juice Diet ว่า


“มะนาวมีสรรพคุณช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างดียิ่ง ทั้งน้ำและเปลือก ที่จะช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น หากเป็นคนที่ดูแลสุขภาพและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยแล้ว เมื่อใดที่คุณอ้วนขึ้นมา มะนาวจะช่วยให้น้ำหนักของคุณลดลงได้ง่ายอย่างไม่น่าเชื่อ”


นอกจากนี้มะนาวยังเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีมากที่สุด ซึ่งผลวิจัยโดยมหาวิทยาลัยแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่า การกินผลไม้และผักที่มีวิตามินซีในปริมาณมากจะมีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหาร และจะช่วยให้น้ำหนักลดได้ดีกว่าวิธีอื่น ๆ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นน้ำมะนาวยังช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมแล้วกักเก็บไว้ในเซลล์ไขมัน ซึ่งแคลเซียมที่ว่านี้จะทำหน้าที่เผาผลาญไขมันได้ดียิ่งขึ้น


ที่มา...goodlifeupdate

วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2562

สูตรไดเอตด้วยกะหล่ำปลี สไตล์สาวญี่ปุ่น

สูตรนี้ส่งตรงมาจากแดนปลาดิบ แต่ใช่ว่าจะให้คุณกินปลาดิบกันเสียเมื่อไรเพราะในหมู่สาวอวบชาวญี่ปุ่นเขากำลังฮิตกิน “กะหล่ำปลี” กันค่ะ กระซิบบอกนิดหนึ่งว่าวิธีนี้ทำแล้วเห็นผลเร็ว แถมไม่ต้องลงทุนมากเสียด้วยนะ

 
Go on Diet

ใช้กะหล่ำปลีสดๆ 1 หัวใหญ่ ล้างน้ำให้สะอาด ตัดแบ่งเป็น 4 ซีก แล้วกินทีละซีกกับน้ำสลัดไขมันต่ำก่อนอาหารทุกมื้อ

 

Expert Says


คุณจอร์จ มาเทลแจน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์สำหรับคนรักสุขภาพ The World’s Healthiest Foods และเจ้าของผลงานเขียนในชื่อเดียวกัน ออกมายืนยันถึงคุณประโยชน์ของกะหล่ำปลีให้เหล่าหนุ่มสาวไซส์เอกซ์แอลได้สบายใจกันว่า กะหล่ำปลีเป็นผักที่มีเส้นใยอาหาร (รวมถึงวิตามินบี 6 โฟเลต และแมงกานีส) สูงมาก เมื่อกินเข้าไปจะทำให้หนักท้อง แทบไม่ต้องกินข้าวตามก็อิ่มได้ ช่วยให้กินน้อยลงโดยปริยาย นอกจากนี้กะหล่ำปลียังมีกรดทาร์ทาริกที่ช่วยยับยั้งและขัดขวางไม่ให้น้ำตาลและแป้งกลายเป็นไขมัน จึงมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนักและลดคอเลสเตอรอ

แม้กะหล่ำปลีจะมีคุณประโยชน์มากมายขนาดนี้ แต่ควรกินในปริมาณที่พอเหมาะและผ่านการปรุงสุก (อาจนึ่งหรือต้ม) ก่อนนะคะ เพราะหากกินกะหล่ำปลีดิบมากเกินไปในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อต่อมไทรอยด์ได้

ที่มา...goodlifeupdate

"ดื่มน้ำเย็น" ลดความอ้วน

ดร.อลัน แมนเดล นายแพทย์ชาวอเมริกัน บอกถึงความแตกต่างระหว่างน้ำอุ่นและน้ำเย็นที่ทำให้เราเข้าใจมากขึ้น โดยบอกว่า ''น้ำอุ่น''ช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย ทำให้การย่อยอาหารดีขึ้น และทำให้ความดันโลหิต การหายใจ และหารเต้นของหัวใจลดลง การนอนหลับก็ดีขึ้น แต่น้ำอุ่นกลับชะล้างไขมันออกจากผิว แตกต่างจากน้ำเย็นที่ยังคงไขมันเคลือบผิวไว้ และทำให้เลือดไปเลี้ยงผิวหนัง ทำให้ดูสุขภาพดีแบบดป็นธรรมชาติ

นอกจากนี้ ''น้ำเย็น'' ยังช่วยเพิ่มระดับพลังงาน กระตุ้นตัวจับอุณหภูมิที่อยุ่ใต้ผิวหนัง เมื่อตัวจับนี้ทำงาน ระบบจะเพิ่มอัตรการเต้นของหัวใจ เพิ่มการหลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลินทั่วร่างกาย ทำให้ร่างกายตื่นตัว มีพลังมากขึ้น  โดย''น้ำเย็น'' ยังเกี่ยวพันโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงเพราะหากเราอาบน้ำด้วยน้ำเย็น 1-2 นาทีแรกในการอาบน้ำ จำนวน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ และทำจนเป็นนิสัย จะทำให้ร่างกายมีเซลล์เม็ดเลือดขาวมากกว่าคนที่ไม่อาบน้ำด้วยวิธีนี้


การดื่มน้ำเย็นจะช่วยลดความอ้วนได้อย่างไร?

ดร.อลันบอกว่า การดื่ม''น้ำเย็น''ช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ โดยจะเผาแคลอรี่ 8 หน่วยต่อการดื่มน้ำเย็น 1 ถ้วย หากดื่ม 8 ถ้วยจะเผาผลาญแคลอรี่ได้ 50-75 แคลอรี่ และถ้ากินน้ำแข็งด้วยก็จะเพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่ให้มากขึ้น! เนื่องจากร่างกายจะคงความสมดุลย์และกระตุ้นการเผาผลาญให้อุณหภูมิอยู่ที่ 36.5 องศาอย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

แม้การดื่ม''น้ำเย็น''ในทรรศนะของดร.อลันจะช่วยกระตุ้นการเผาผลาญเพิ่มการเผาไขมัน แต่การดื่ม''น้ำเย็น''วิธีเดียวเพื่อลดความอ้วนอาจไม่เหมาะสม เนื่องจากการลดความอ้วนยังต้องขึ้นกับการรับประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกาย การนอนหลับมีคุณภาพและไม่เครียด หากทำได้ครบและถูกวิธี จึงได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องมากกว่า

ที่มา...เดลินิวส์

วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2562

6 วิธีง่ายๆ เพื่อควบคุมปริมาณไขมันในร่างกาย

1) อย่ากลัวคอเลสเตอรอลจนเกินไป เพราะไขมันก็มีประโยชน์ เราอาจใช้วิธี "กินมันลดไขมัน" ได้ โดยการเลือกรับประทานไขมันดีที่มีมากในปลาทู ทูน่า แซลมอน หรือปลากระป๋องก็ยังได้ อีกทั้งยังมีน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ คาโนล่า น้ำมันมะพร้าว อะโวคาโด และบรรดาพืชน้ำมันต่างๆ รวมถึงไข่แดงที่หลายท่านกลัวก็ยังคงรับประทานได้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะมันช่วยสมองกับกระดูกของเรามาก

2) ให้ระวังไขมันทรานส์ดีกว่า อย่าลืมว่าไขมันที่ร้ายไม่ใช่ไขมันอิ่มตัวเสมอไปแต่เป็นไขมันในรูป "ทรานส์" ที่ทำให้เพิ่มคอเลสเตอรอลแอลดีแอลในร่างกายแต่ไปกดไขมันดีอย่างเอชดีแอลให้ต่ำลง ซึ่งไขมันทรานส์มีมากในเนยเทียม คุกกี้ แครกเกอร์ วิปครีม มันฝรั่งทอด โดนัท และเบเกอรี่อีกหลายชนิด

3) อย่าอดนอนหรือนอนมากไป มีการศึกษาตีพิมพ์ในวารสาร Sleep ว่าสุภาพสตรีที่นอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืน และที่นอนมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อคืนนั้น พบว่า มีระดับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์สูงและไขมันดีตกต่ำ นอกจากนั้น นักวิจัยยังพบว่าการกรน ยังสัมพันธ์กับระดับของไขมันดีที่ต่ำลงด้วย แต่ขอเสริมไว้ว่าอย่ากินมื้อดึกด้วย

4) ให้ใส่ใจเลี่ยงน้ำตาล โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่ฉลากบอกว่ามีฟรุกโตส ซูโครส หรือ HFCS (High-Fructose Corn Syrup) เพราะมันอาจเป็นความเสี่ยงใหญ่หลวงต่อการเกิด "ไขมันแทรกตับ (Non-alcoholic fatty liver disease)" ที่หลายท่านเรียกว่ามันพอกตับ ซึ่งที่จริงแล้วแนวทางปฏิบัติด้านโภชนาการแนะว่าถ้าลดการเพิ่มน้ำตาลลงได้เพียง 5% ของพลังงานทั้งหมดต่อวันก็จะช่วยลดความชุกของไขมันแทรกตับและผลร้ายตามมาของมันได้

5) โปรดเลี่ยงเมรัย ขอให้ใส่ใจเรื่องแอลกอฮอล์ด้วย เพราะจะช่วยคุมคอเลสเตอรอลได้ เพราะแอลกอฮอล์ที่บริโภคเข้าไปทำให้ร่างกายได้แคลอรีเพิ่มซึ่งอาจเปลี่ยนเป็นน้ำหนักตัวหรือภาวะลงพุง ที่นำมฤตยูมาอยู่ใกล้ตัวขึ้น การที่น้ำหนักตัวเพิ่มสามารถแกล้งให้ค่าคอเลสเตอรอลแอลดีแอลสูงขึ้นได้ ในขณะที่ทำให้ไขมันดีต่ำลง อีกทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจกับไขมันไตรกลีเซอร์ไรด์จุกตับได้อีก

6) ให้เจาะเลือดตรวจไขมัน โดยสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (American Heart Association,AHA) ได้แนะนำไว้ว่าผู้ใหญ่ทุกคนที่มีวัยตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ควรได้รับการตรวจคัดกรองภาวะไขมันสูงอย่างสม่ำเสมอ อีกทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงไขมันสูงควรต้องได้รับการตรวจเช่นกัน ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ชายอายุตั้งแต่ 45 ปี หญิงอายุ 50 ปีขึ้นไป ผู้สูบบุหรี่ และผู้ที่มีประวัติไขมันสูงในครอบครัว

วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2562

ผักสลายไขมันร้าย ช่วยหุ่นสวย สุขภาพดี

1. มะเขือเทศ หลายคนคงรู้ดีว่าสารไลโคปีนในมะเขือเทศเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีมาก สามารถลดระดับของคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด กระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น

2. กระเทียม มีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ เพิ่มไขมันชนิดดีให้สูงขึ้น โดยสารที่ชื่อว่าอัลลิซิน นอกจากเป็นผักสมุนไพรช่วยสลายไขมันในเลือดได้ยังช่วยลดความดันโลหิต ป้องกันโรคหัวใจ

3. ขิงและข่า ในการศึกษาถึงฤทธิ์ทางยาของขิงพบว่า สามารถลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลและไขมันไตรกลีเซอไรด์ ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือด ช่วยควบคุมระดับของไขมันได้ดี

4. ผักกาดหอม รวมถึงผักโขม กะหล่ำปลี บรอกโคลี ผักเคล หรือผักใบเขียวทั้งหลาย อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ปริมาณเส้นใยอาหารสูงซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยขับไขมันออกจากร่างกาย ทำให้น้ำหนักลดลงได้จริง

5. ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา และถั่วต่างๆ จะมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมัน ลดการสะสมของไขมันทำให้มีรูปร่างดีดูเพรียวขึ้น ช่วยลดการเกิดโรคอ้วน โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น

6. กระเจี๊ยบแดง มีสารแอนโทไซยานินซึ่งมีสรรพคุณช่วยทำให้ไขมันชนิดไม่ดีลดลง และช่วยเพิ่มระดับไขมันชนิดดีให้มากขึ้น นอกจากนี้ก็มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงต้านการเกิดมะเร็งและชะลอวัยได้ด้วย

7. ดอกคำฝอย มีส่วนประกอบของกรดไลโนเลอิกและกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายชนิด ซึ่งจะมีส่วนในการทำปฏิกิริยากับไขมันที่ไม่ดีในเลือดแล้วขับออกจากร่างกายทางระบบการขับถ่าย ไขมันในร่างกายลดลงและป้องกันโรคต่างๆ

8. หอมหัวใหญ่และหอมแดง หากกินเป็นประจำจะช่วยให้คอเลสเตอรอลลดลง สลายไขมันในเส้นเลือด ลดโอกาสจะเกิดโรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และช่วยรักษาโรคภูมิแพ้หรือหอบหืด

9. พริกชี้ฟ้าและพริกหยวก เป็นแหล่งของสารอาหารสำคัญหลายชนิด และมีสารสำคัญที่เป็นประโยชน์ช่วยลดระดับไขมันได้ดี ทำให้มีไขมันสะสมในร่างกายน้อยลง จึงเป็นผักสลายไขมันที่ไม่ควรพลาด

10. เห็ดฟาง ประกอบด้วยเส้นใยอาหารสูงซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกายหลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่าย ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น และมีสรรพคุณป้องกันโรคหวัด โรคมะเร็ง บำรุงหัวใจ รวมทั้งลดไขมันในเส้นเลือด

11. มะเขือยาว ในการทดลองพบว่ามะเขือยาวยับยั้งการดูดซึมคอเลสเตอรอลที่ผ่านผนังลำไส้ได้ดี ส่งผลให้ไขมันในเส้นเลือดลดลง ไม่มีคอเลสเตอรอลเกาะในเส้นเลือด

ปัจจุบันเรื่องของอาหารการกินที่ไม่มีไขมันเป็นส่วนประกอบนั้นอาจจะหลีกเลี่ยงยาก และคนส่วนใหญ่ก็ยังชอบการกินอาหารมีไขมันสูงด้วย แต่เพื่อสุขภาพที่ดีของตัวเราเองควรจะลดปริมาณลง พร้อมกับหันมากินอาหารประเภทผักให้มากขึ้นดีกว่า โดยเฉพาะพืชผักต่างๆ ที่มีสรรพคุณช่วยสลายไขมัน ซึ่งจะทำให้สุขภาพดี ไม่เกิดโรคร้ายได้ง่ายๆ แถมมีรูปร่างที่ดีอีกด้วย

สาวๆห้ามพลาด!!!!!! แค่กินกล้วยให้ถูกเวลา เพียง 10 วัน ลดน้ำหนักได้ถึง 3 กิโล


กล้วย เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ หลังจากที่นักแสดงสาวชาวญี่ปุ่น Fukada Kyoko กินกล้วยเป็นอาหารเช้าและลดน้ำหนักลงไปได้ถึง12กิโลกรัม ทำให้กล้วยกลายเป็นผลไม้ลดความอ้วนยอดฮิตไปซะแล้ว แต่เพื่อนรู้ไหมว่า จริงๆแล้วกินกล้วยตอนมื้อเย็นเห็นผลมากกว่าอีกนะ

ผลการวิจัยของ Matsuoi Tsuneo แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านลำไส้ชาวญี่ปุ่น ระบุว่า
ปัจจุบันคนส่วนใหญ่มักจะกินอาหารเช้าปริมาณน้อยแต่กินอาหารเย็นเต็มที่ หากเราเปลี่ยนนิสัยการกินมื้อเย็นได้ การลดน้ำหนักก็จะเห็นผลเร็วมากขึ้น
และยังได้แนะนำว่าก่อนอาหารมื้อเย็นให้กินกล้วยสัก 2 ผลตามด้วยน้ำเปล่า 200 มล. อีก 1 แก้ว

หลังจากนั้น 30 นาทีค่อยกินอาหารเย็น เพราะการกินกล้วยจะช่วยลดความอยากอาหาร ไม่ต้องอดอาหารอย่างทรมาน แล้วยังไม่ทำให้กลับมาอ้วนอีก ใช้เวลาสั้นๆแค่ 10วัน ก็สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 3 กิโลกรัม


ข้อดีของการกินกล้วยในมื้อเย็น

 

 1. สารอาหารมากมายและให้พลังงานต่ำ

กล้วย1ผลให้พลังงาน86กิโลแคลอรี่(ประมาณ100กรัม) เมื่อเปรียบกับข้าว1ถ้วยที่ให้พลังงาน250กิโลแคลอรี่ แล้วกล้วยยังทำให้อิ่มอยู่ท้อง ไม่หิวง่าย ในกล้วยมีทั้งวิตามินB6, วิตามินC,แมกนีเซียม, โพแทสเซียมและแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นในการเสริมสร้างร่างกาย

2. มีใยอาหารสูง ช่วยในการขับถ่าย

ในกล้วยนั้นมีเส้นใยอาหารที่ละลายน้ำได้ช่วยเพิ่มจำนวนโปรไบโอติกและระบบภูมิคุ้มกันในลำไส้ และยังมีเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ลดอาการท้องผูก

3. กระตุ้นโกรทฮอร์โมน ลดริ้วรอยชะลอความแก่

ร่างกายของเรานั้นจะสร้างโกรทฮอร์โมนหรือฮอร์โมนแห่งการเจริญวัย ช่วยชะลอวัยและเผาผลาญพลังงานมากที่สุดในช่วงเข้านอนเวลา(ช่วงเวลา23.00-01.00) เมื่อเรากินกล้วยในมื้อเย็นแล้ว กรดอาร์จีนีนในกล้วยจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายปล่อยโกรทฮอร์โมนออกมา ช่วยชะลอความแก่ ลดความอ้วนได้ดี ทั้งนี้ในกล้วยมีโพแทสเซียมสูง ทั้งนี้ผู้ป่วยโรคไตควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อน
ประโยชน์ของกล้วยนั้นมีมากมายจริงๆ นับจากวันนี้ฉันจะกินกล้วยทุกวันเลย!


Cr. share-si.com




วันจันทร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2562

รักษาสิวอย่างไร ให้ตรงจุด

สิวเกิดจากหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม, ฮอร์โมน รวมถึงอาหารบางชนิด  ซึ่งนำไปสู่
   
1. การอุดตันของรูขุมขน
    
2. การเพิ่มขึ้นของแบคทีเรียบางชนิดในรูขุมขน (Cutibacterium acnes)

3. การผลิตสารไขมัน (Sebum) มากกว่าปกติ



4. กระบวนการอักเสบของรูขุมขน

 สิวมีหลายรูปแบบ ทั้งสิวอุดตันหรือสิวอักเสบ คือ เป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง 

การป้องกันควร

หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว เช่น ความเครียด เครื่องสำอางบางชนิดที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เป็นต้น 

สำหรับอาหารต่อการเกิดสิวนั้น ข้อมูลในปัจจุบันยังไม่ชัดเจน พบว่าอาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) หรือนมชนิดขาดมันเนย อาจกระตุ้นการเกิดสิวได้ในผู้ป่วยบางราย

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2562

สมุดภาพการกัลปนาพื้นที่ลุ่มทะเลสาบสงขลา

สมุดภาพการกัลปนาพื้นที่ลุ่มทะเลสาบสงขลา
กลางพุทธศตวรรษที่ 22
หอสมุดแห่งชาติ กรุงเทพ

สมุดภาพนี้ เป็นที่รู้จักในชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เนื้อหาประกอบด้วยภาพแสดงตำแหน่งของวัด และลำคลอง ซึ่งมีชื่อวัดและสถานที่ต่างๆกำกับไว้ เพื่อแสดงให้เห็นถึงภาพของการกัลปนาและอาณาเขตวัดต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การปกครองของวัดพะโค ในพื้นที่ทะเลสาบสงขลา

ซึ่งการกัลปณาคือ การอุทิศหรือมอบที่ดิน สิ่งของและผู้คนให้กับวัด ถือเป็นการสร้างชุมชนใหม่ให้เกิดขึ้น

The Illustrated of Manuscript of Kallapana in The Songkla Lake Basin Area

CA. 17th Century CE
National Library

The content consists of images showing the location of temples, canals and name of various places. The picture showing the dedication or giving of land object and people to the temple for create a new community,

วันพุธที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2562

พระพุทธรูปปางมารวิชัย สกุลช่างนครศรีธรรมราช

พระพุทธรูปปางมารวิชัย
พุทธศตวรรษที่ 21-22
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช

พระพุทธรูปสกุลช่างนครศรีธรรมราช มีลักษณะทางพุทธศิลป์คือ เป็นพระพุทธรูปขัดสามธิเพชร ขมวดพระเกษาขนาดปานกลาง พระรัศมีเป็นรูปดอกบัวตูม พระพักต์กลมป้อง พระขนงโก่ง พระเนตรเหลือบต่ำ พระวรกายอวบอ้วนจนกลมป้อม
มักเรียกว่า แบบขนมต้ม มีพระอุระนูน ชายสังฆาฏิสั้นซ้อนทับกันเหนือพระถัน อันเป็นลักษณะเฉพาะของพระพุทธรูปสกุลช่วงนี้

Buddha in Suducing Mara
CA 16th-17th Century CE

Nakhon si Thammarat National Museum
Nakhon si Thammarat Art Style




แว่นเวียนเทียน ประดับมุก

แว่นเวียนเทียน ประดับมุก

พุทธศตวรรษที่ 25

จอมพลเรือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ประทานยืมแด่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

Candle Holder

20th Century

Lent by Marshal-Admiral Paribatra

Sukhumbandhu, Prince of Nakorn Sawan

คันฉ่อง สมัยรัตนโกสินทร์

คันฉ่อง สมัยรัตนโกสินทร์

The mirror is made of polished metal.

Decorated with wood carving frame and

small bench.

วันพุธที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2562

พระมาลัยโปรดสวรรค์

พระมาลัยโปรดสวรรค์

ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 (200 ปีมาแล้ว) โลหะผสม

รูปพระมาลัยนั่งขัดสมาธิราบ มือขวาวางคว่ำลงบนหน้าตักซ้าย มือซ้ายยกขึ้นเหยียด แขนชี้ออกไปด้านข้าง อันเป็นการแสดงถึงเหตุการณ์ที่พระมาลัยไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้สนทนากับท้าวสักกเทวราชถึงกุศลกรรมของเทพบุตรซึ่งเสด็จมาสักการะพระจุฬามณี

โดยลักษณะท่าทางของพระมาลัยรูปนี้ เหมือนกับที่ปรากฎในจิตกรรมพระมาลัยโปรดสวรรค์ที่พบได้ทั่วไปในศิลปกรรมไทย


พระพุทธรูปประทับยืนบนเศียรมหิสสรเทวะ ทรงโคนนทิ

พระพุทธรูปประทับยืนบนเศียรมหิสสรเทวะ ทรงโคนนทิ ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 25 (100 ปีมาแล้ว) ทองเหลืองปิดทองคำเปลว

พระพุธรูปปางนี้สร้างขึ้นตามเรื่องราวที่ปรากฏในคัมภีร์หมวดโลกศาสตร์ กล่าวถึงมหิสสรเทพบุตรไม่พอใจที่เหล่าเทวดาไปนบนอบแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงท้าประลองฤทธิ์ด้วยการซ่อนหา

มหิสสรเทพบุตรไม่สามารถซ่อนตนจากพระญาณของพระพุทธองค์ได้ ครั้นพระพุทธเจ้าทรงเนรมิตองค์เป็นปรมาณูประทับยืนใกล้กับทิพยจักษุของมหิสสรเทพบุตร มหิสสรหาไม่พบจึงยอมจำนน

พระบรมศาสดาได้ตรัสเทศนาจนมหิสสรเทพบุตรบรรลุธรรม ภายหลังปรินิพพาน หหิสสรเทพบุตรได้เนรมิตพระพุทธปฏิมาเทินไว้เหนือเศียรอันเชิญไปประดิษฐานยังมหาวิหารบนเขามันทคีรี

Buddha image standing above Mahisson deva's head on ciw Nandi.

Rattanakosin art, 20th century A.D.
Brass gilded with gild leaf

This posture was created as appeared in the scripture of worldly science. It described about Mahisson deva was not peasant that all angels revered only Buddha.

So he challenged Buddha by hide and seek game. He could not hide himself from Buddha's insught at all.

The Buddha disguised as an atom standing near Mahisson's eye, but he did not see till he surrendered.

Buddha gave a sermon to Mahisson and he gained enlightment. After the death of Buddha, he created Buddha image above head to be enshrined in Vihara on Muntha Kiri mountain.

วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2562

ศีรษะบุคคล (ศิลปะลพบุรี)

ศีรษะบุคคล (ศิลปะลพบุรี)
พุทธศตวรรษที่ 18-19

1-2 พบที่วัดพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม

3 พบที่โบราณสถานเนินทางพระ อำเภอสามชุก จังหวัดสุพรรณบุรี

ใบหน้าบุคคล ปูนปั้น ดวงตาเล็กยาวรี ปลายคิ้วและหางตาชี้ขึ้น ทรงผมและเครื่องประดับคล้ายชาวจีน


พระเก้าอี้พับ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก


พระเก้าอี้พับ ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ศิลปะรัตนโกสินทร์ พุทธศตวรรษที่ 24 (200 ปีมาแล้ว) ไม้ลงรักปิดทอง หนังสัตว์

สมบัติเดิมของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

พระเก้าอี้พับ ที่ประทับด้วยหนัง กลางพนักมีนวมหนังสำหรับรับพระปฤษฎางค์เมื่อนอนพระองค์ลงพิง

พระเก้าอี้นี้ใช้เข้าในกระบวนการเสด็จพระราชดำเนิน สำหรับการฉุกเฉินที่เจ้าพนักงานไม่ได้ทอดพระแท่นที่ประทับ เมื่อต้องทรงยืนอยู่นาน เจ้าพนักงานจะเชิญพระเก้าอี้เข้าไปทอดถวายแทน ตลอดทรงใช้ในคราวเสด็จงานพระราชสงคราม

วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2562

มหัศจรรย์แห่งปัจจุบันขณะ


เคยมีพิธีกรสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งถามองค์ทะไลลามะว่า พระองค์จะทรงเล่าให้ผู้ชมฟังถึงช่วงเวลาที่พระองค์ทรงมีความสุขที่สุดในชีวิตได้ไหม

พระองค์ทรงใคร่ครวญสักพักก่อนจะยิ้มแล้วตอบว่า “อาตมาคิดว่า ช่วงเวลานั้นก็คือตอนนี้ไงล่ะ”

ความสุขที่สุดนั้นสามารถหาได้ในปัจจุบันขณะ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม  ไม่ต้องรอว่า ไปพักร้อน เที่ยวห้างหรือเจอคนรักก่อนจึงจะมีความสุขได้  ใครที่เฝ้ารออนาคตหรืออาลัยความสุขในอดีต จะไม่มีวันพบความสุขในปัจจุบันได้เลย

“ปัจจุบันเป็นเวลาประเสริฐสุด”  คำกล่าวของท่านติช นัท ฮันห์ เตือนให้เราเห็นคุณค่าของทุกขณะที่เรามีอยู่  ผู้คนมักไม่ตระหนักว่า  ปัจจุบันขณะเป็นสิ่งแสดงว่าเรายังมีชีวิตอยู่  จำเพาะคนตายเท่านั้นที่มีแต่อดีต ไม่มีปัจจุบัน  แม้กระนั้นถ้าใครมัวจมอยู่กับอดีต  เอาแต่โศกเศร้าคร่ำครวญถึงคนรักที่ตายจาก ผู้นั้นก็ไม่ต่างจากคนตาย  เพราะชีวิตไร้ชีวาเสียแล้ว เช่นเดียวกับคนที่กังวลกับอนาคต คิดถึงแต่ความตายที่รออยู่เบื้องหน้าเมื่อรู้ว่าตนเป็นโรคร้าย  หมดอาลัยตายอยากกับชีวิต คนเหล่านี้ถึงจะมีลมหายใจก็เหมือนตายทั้งเป็น


มีแต่คนที่อยู่กับปัจจุบันขณะเท่านั้น จึงจะรู้สึกตื่นและมีชีวิตชีวาอย่างแท้จริง  เป็นคุณภาพที่ต่างจากคนซึ่งฝันถึงความสุขในอนาคต ใช้ชีวิตราวคนหลงละเมอ

ปัจจุบันคือเวลาประเสริฐสุด เพราะเป็นโอกาสเดียวเท่านั้นที่เราสามารถทำสิ่งดีงามให้เกิดขึ้นได้  ถ้าต้องการความสำเร็จ ก็ต้องลงมือทำเสียแต่บัดนี้  ถ้าต้องการความสุข ก็ต้องรู้จักเป็นสุขเสียแต่ตอนนี้

“ชั่วขณะนี้เต็มไปด้วยสิ่งมหัศจรรย์”  ท่านติช นัท ฮันห์  ชี้ให้เราเห็นว่า ความสุข ความงดงาม ความสงบเย็น หรือแม้กระทั่งนิพพาน ล้วนพบได้ในปัจจุบันเท่านั้น  ขอเพียงแต่เราน้อมใจอยู่กับปัจจุบัน  สิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ก็จะปรากฏแก่เรา

“สุรเชษฐ์” เป็นคนที่ขยันทำงานไม่ว่างเว้น และมีเรื่องให้ต้องใช้ความคิดตลอดเวลา  วันหนึ่งเขาพบว่าตนเองเป็นไส้เลื่อน   หลังจากผ่าตัดแล้วต้องมาพักฟื้นหลายวันที่บ้านซึ่งอยู่ชานกรุง  นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาต้องวางงานทั้งหมด เพราะทำงานไม่สะดวก แม้แต่จะขยับเขยื้อนก็ลำบาก  บ่ายวันหนึ่งขณะนั่งอยู่ที่ระเบียงบ้าน เขาได้ยินเสียงนกเขาขัน ทีแรกก็ตัวเดียว ต่อมาอีกหลายตัวร้องประสาน ตามมาด้วยนกนานาชนิดส่งเสียงบรรเลง  เขาฟังอย่างตั้งใจ  รับรู้ได้ถึงความไพเราะของเสียงนกร้อง  เกิดปีติถึงกับน้ำตาคลอ   แล้วเขาก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เขาอยู่บ้านนี้มาร่วม ๒๐ ปีแล้ว ตั้งแต่ลูกสาวยังเล็กจนตอนนี้เกือบจบมหาวิทยาลัยแล้ว ทำไมเขาเพิ่งได้ยินเสียงนี้เป็นครั้งแรก

นกเหล่านี้เพิ่งร้องประสานเสียงหรือ เปล่าเลย  นกร้องมานานแล้ว นกร้องทุกวันแต่เขาไม่ได้ยินเอง เพราะใจมัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการงาน ท่องไปในอดีตบ้าง อนาคตบ้าง  ความไพเราะและความสุขนั้นมีอยู่รอบตัวเขา แต่ใจเขาไม่เปิดรับเองต่างหาก เพราะไม่ได้อยู่กับปัจจุบันขณะ

ยังมีสิ่งดี ๆ อีกมากที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าและรอบตัวเรา  ขอเพียงแต่เปิดใจให้กับปัจจุบันขณะเท่านั้น

อันที่จริงหากเราตระหนักว่าชีวิตนี้เปราะบางอย่างยิ่ง ก็จะพบว่าแค่มีวันนี้ มีวินาทีนี้นับว่าเป็นโชคอันประเสริฐอย่างยิ่ง ดังท่านนาคารชุน ปราชญ์ชาวอินเดียเมื่อพันกว่าปีก่อนได้กล่าวว่า “ชีวิตมนุษย์นั้นบอบบางเสียยิ่งกว่าฟองน้ำ  การที่ลมหายใจออกตามหลังลมหายใจเข้า และการที่เราตื่นขึ้นมาหลังจากได้นอนหลับไปนั้น เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่งนัก”

พระไพศาล วิสาโล

วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ยกโทษให้ไว รักให้หมดใจ


ชีวิตนี้สั้นนัก!!
อย่าใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความฉุนเฉียว
ยกโทษให้ไว รักให้หมดใจ

หลายครั้งไหม?
ที่เราเอาใจจดจ่อที่...
"ความต้องการของฉันเอง"
แทนที่จะใส่ใจ...
ในความต้องการของเขา

การเอาแต่จดจ่อที่ตัวเอง
ไม่เคยเลยที่จะทำให้ใครเป็นสุข

ชีวิตที่...เอาแต่เรียกร้อง
ไม่เคยทำให้ใครพบความสงบสุข
ต่อให้เขามีมากขนาดไหน
เพราะความสุขเกิดจากหัวใจ...
ที่รักที่จะ "ให้" ไม่ใช่คิดแต่จะ "เอา"

เจิม ซัม

เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข

“คนดี”ในที่นี้หมายถึง คนที่ทำตัวเองให้เป็นที่นิยมชมชอบ เพื่อไม่ให้ถูกเกลียด

สิ่งแรกที่ต้องมีคือ “อิสระทางใจ” ไม่ปล่อยให้ผู้อื่นมีอิทธิพลหรือควบคุมความรู้สึกของเรา

การจะมีอิสระทางใจได้ เราต้องมีจิตใจ และความคิดที่ดี “มองทุกเรื่องทุกสถานการณ์ในแง่บวก”

คนที่พูดจาว่าร้ายคุณ คือคนที่ไม่รู้จักคุณดีพอ ฉะนั้นพวกเขาเป็นคนที่ไม่มีความสำคัญกับคุณเลย

คุณต้องกล้ากำหนดคนที่ควรตัดออกจากชีวิต

คนที่เราควรคบหาคือ คนที่ใช้ชีวิตแบบเดียวกับเรา ใช่ว่าคนดีทุกคนจะนำความสุขและความเจริญมาให้เรา

คนที่ชอบ “โกหก” “หลอกลวง” “ไม่รักษาคำพูด”และ “ทำแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการ”โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม คือคนที่เราควรตัดออกจากชีวิต

“เลิกกลัวที่จะอยู่คนเดียว”การหาเวลาอยู่กับตัวเองถือเป็นการลงทุนที่จำเป็นมาก


การอยู่กับตัวเองให้ได้เป็นหลักปฏิบัติในพุทธศาสนาที่สำคัญ

เมื่ออยู่กับตัวเอง คุณจะมีสมาธิ ค้นหาและเข้าใจตัวตน และพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

คุณจะใช้ชีวิตอย่างเข้มแข็ง และยอมรับได้ว่า ปัญหาของตัวเองก็ต้องแก้ไขเอง

สุดท้ายคุณต้องเลิก “ยัดเยียดคุณงามความดีที่ตัวเองเชื่อให้คนอื่น”

ยอมรับเถอะว่า “คนเรามีร้อยพ่อพันแม่” ทุกคนมีความคิดและความเชื่อเป็นของตัวเอง

ในสังคมนี้ไม่มี “คนดี” สำหรับทุกคน เพราะทุกคนตัดสินใจกระทำอะไร โดยมีเหตุผลเฉพาะตน

สรุปมาจากหนังสือ “เลิกเป็นคนดีแล้วจะมีความสุข”

เข้าใจคำว่า "รัก"

 
เราอาจบังคับใจเรา ให้รักใครสักคน จนวันตายได้

แต่เราไม่อาจบังคับใจใคร ให้รักและดีต่อเราได้จนวันตาย

นอกจาก...เขาอยากทำเอง

เริ่มต้นด้วยรัก ต้องจบลงด้วยการเข้าใจ

ความรัก...คือสิ่งที่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะมี แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสมี "ความรัก"

เมื่อถึงคราวที่มีความรัก ก็เก็บเกี่ยวความสุขจากความรักให้เป็น

เมื่อถึงคราวที่ต้องทุกข์กับความรัก

ก็อย่าให้ความทุกข์นั้น บั่นทอนชีวิต

วันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2562

การตลาดโดยการใช้ "เสียง"


คุณรู้ไหมว่าเสียงที่ดึงดูดความสนใจของเราได้มากที่สุด คือเสียงหัวเราะของเด็กทารก ทุกคนจะหันไปมองอย่างพร้อมเพรียงเมื่อได้ยินเสียงนี้

ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงรู้เรื่องนี้ดี พวกเขาจึงใช้มันในสื่อโฆษณา

แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอเมริกา เมื่อแถวที่ลูกค้ามารอทานอาหารยาวมากขึ้น นักดนตรีของห้องอาหารจะบรรเลงดนตรีด้วยจังหวะที่เร็วขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าทานอาหารและออกจากร้านเร็วขึ้น

โดยที่ลูกค้าเหล่านี้ไม่รู้ตัวเลย ว่ากำลังรีบทานอาหารอย่างเร่งรีบตามจังหวะของเสียงดนตรี

40 ข้อคิด เพราะชีวิตกว้างใหญ่กว่าท้องฟ้า (พศิร อินทรวงศ์)

1. สิ่งสูงสุดที่มนุษย์ทุกคนต้องการคือความสุข เราจะเรียกความสุขว่าอย่างไรก็ตามแต่ ทว่า ความสุขก็คือภาวะแห่งความสันติ เบิกบาน ตื่นรู้ พ้นไปจากความวิตกกังวลทั้งปวง

2. สุขนอกกาย มิใช่ความสุขแท้ เป็นเพียงสุขเพื่อประทังชีวิตให้พออยู่ได้ ความสุขที่แท้จริง จะต้องไม่ยึดโยงไว้กับวัตถุหรือบุคคล ความสุขแท้เกิดได้ต่อเมื่ออบรมจิตใจไว้ดีแล้วเท่านั้น

3. การงานมิใช่เครื่องมือแสวงหาเงินตรา แต่เป็นเครื่องมือขัดเกลากิเลส อย่าทำงานเพื่อเงิน แต่จงทำเพื่อสิ่งที่ล้ำค่าไปกว่านั้น จงทำงานเพื่อรับใช้เพื่อนมนุษย์

4. ไม่มีอดีตหรืออนาคต ที่เรามีอยู่คือปัจจุบัน อย่าเผาเวลาปัจจุบันไปกับเงาของอดีตและอนาคต

5. คนที่สำคัญในชีวิตมิใช่ใครอื่น แต่เป็นบุคคลที่อยู่ตรงหน้า ผู้ใดอยู่ตรงหน้าของเรา เขาคือคนเดียวในโลกที่เป็นของจริง

6. คำพูดทำลายน้ำใจคนจงอย่าพูด สิ่งใดเป็นการโกหกจงอย่าพูด คำนินทาลับหลังจงอย่าพูด จงประณีตในการสื่อสารด้วยวาจา ผู้ใดถือสัจจะเป็นสำคัญ ผู้นั้นย่อมเป็นที่เชื่อถือในหมู่ชน

7. เมื่อพูดน้อยลง ความคิดย่อมเฉียบคมขึ้น ใช้คำพูดอย่างประหยัด คุณค่าคำพูดมีมากกว่าเพชรนิลจินดา

8. ท้องฟ้า ก้อนเมฆ ต้นไม้คือเพื่อนแท้ อยู่ใกล้ชิดสิ่งเหล่านี้ช่วยให้จิตใจสงบ ความสงบช่วยให้เท่าทันกิเลสได้

9. ใช้เงินเท่าที่จำเป็น มีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้น้อย แล้วเราจะเป็นนายชีวิตของตนเอง

10. อย่าสะสมสิ่งใดเลย เพราะการสะสมก่อให้เกิดการยึดติด และการยึดติดเป็นเหตุสำคัญแห่งทุกข์ เก็บเกี่ยวทุกสิ่งไว้ในความทรงจำ ทิ้งสิ่งรกรุงรังเพื่อให้ชีวิตคม ชัดเจน และรวดเร็วขึ้น

11. ปัญญารวดเร็วเพราะรู้จักสร้างจังหวะให้ชีวิตตน แม้จังหวะชีวิตเป็นไปด้วยสถานการณ์ เราย่อมเป็นทาสสถานการณ์ ชีวิตย่อมหาอิสระไม่ได้

12. เงินตรา อำนาจ ชื่อเสียง เป็นของมีคม จงใช้อย่างระมัดระวัง

13. เรียนรู้โลกภายนอก ต้องรู้หลายสิ่ง เรียนรู้โลกภายใน รู้เพียงสิ่งเดียว “จงรู้สึกตัวอยู่เสมอ”

14. ศาสนาที่ยิ่งใหญ่ มิใช่ศาสนาใด นอกจากความรัก ความรักคือศาสนาสำคัญของโลก มีแต่รักเท่านั้นที่โอบอุ้มให้โลกอยู่ได้

15. มนุษย์ทุกคนมีส่วนสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ดุจญาติพี่น้อง แม้ปรารถนาให้โลกน่าอยู่ จงให้ความรักแก่คนรอบข้าง ความรักจักงอกงาม ผลิบาน ส่งกลิ่นหอมไปไกล

16. ขอให้มีความสุขกับเรื่องง่ายๆ เช่นการเดินในสวนหลังบ้าน การให้อาหารนกปลาที่เร่ร่อน มีความสุขกับการปัดกวาดเช็ดถูกบ้าน อย่าได้แสวงหาความสุขจากกิจกรรมที่แสนพิเศษ แม้เราทำสิ่งเล็ก ๆให้กลายเป็นความพิเศษ เราย่อมสัมผัสกับความสุขได้ตลอดเวลา

17. จงอุทิศตนให้หน้าที่การงาน ทำงานด้วยความเพียร ด้วยความปรารถนาดีต่อผู้อื่น อย่าทำงานอย่างแก่ตัว ไม่เช่นนั้นแล้ว การงานของเราจะกลายเป็นกิจกรรมที่เบียดเบียนเพื่อนมนุษย์โดยไม่รู้ตัว

18. ทุกคนมีหน้าที่แบ่งปัน เศรษฐีก็แบ่งปันอย่างเศรษฐี ยาจกก็แบ่งปันอย่างยาจก แท้จริงแล้วทุกคนคือผู้ร่ำรวยไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แจกจ่ายสิ่งที่มีอยู่เหลือเฟือให้ผู้อื่นได้ใช้ประโยชน์ พากายใจไปแห่งใด ขอให้กายใจของเราสร้างความสุขให้คนรอบข้าง

19. บทกวี บทเพลง และงานศิลปะ ช่วยให้จิตใจอ่อนโยน บทกวีแท้มิได้อยู่ในกระดาษ หากอยู่ในรูป รส กลิ่น เสียงที่พบเจอ บทเพลงไพเราะ อาจมีนกน้อยเป็นผู้ขับขาน ส่วนงานศิลปะยิ่งใหญ่ คือต้นหญ้าเล็ก ๆ ที่ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์

20. เวลาเป็นสิ่งมีค่า มิได้หมายความว่าท่านต้องทำสิ่งต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา หากแต่ท่านต้องรู้จักใช้เวลาไปกับทุกมิติของชีวิต ท่านควรมีเวลาออกกำลังกาย มีเวลาแสวงหาความรู้ มีเวลาทำงาน มีเวลาอยู่กับครอบครัว เวลาอยู่กับตนเอง มีช่วงเวลาสงบนิ่งผ่อนคลาย จงจัดสมดุลชีวิต ด้วยการบริหารสิ่งที่ต้องกระทำให้ครบทุกมิติ

21. พ่อแม่คือผู้ให้ชีวิต ครูอาจารย์คือผู้ให้อาชีพ ศาสดาคือผู้ให้ชีวิตใหม่

22. เมื่อท่านเป็นพ่อแม่คน ท่านจักรู้ชัดว่า ดวงตาของท่าน แขนและขาของท่าน แม้แต่ชีวิตของท่าน ก็มีค่าน้อยกว่าลูกอันเป็นที่รักของท่าน

23. คู่รักหาง่าย คู่บุญหายาก จงเป็นกัลยาณมิตรให้คนที่ท่านรัก จงเสียสละ แบ่งปัน ให้อิสระ อย่าคิดครอบครอง อย่าได้บงการให้เขาคิดเห็นเช่นเดียวกับท่าน ท่านและเขาล้วนมีความคิดจิตใจเป็นของตนเอง เคารพซึ่งกันและกัน เมตตา อาทร วันหนึ่งรักแท้อาจถือกำเนิด

24. พลังที่แท้มิได้เกิดจากความทะเยอทะยาน ทว่า เกิดจากสมาธิกำหนดรู้ในสิ่งตรงหน้า จงรักในสิ่งที่ท่านทำ ทำด้วยความรัก อดทน ขยันขันแข็ง ข้ามผ่านตนเองในวันวานไปทีละก้าว แล้วท่านจะได้พบกับบางสิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าความสำเร็จ ท่านจะได้รู้แก่ใจของท่านเองว่า ความเพียรมีค่ากว่าความสำเร็จ

25. เก็บความรักและช่วงเวลางดงามไว้เป็นพลังชีวิต จงทิ้งความผิดหวัง ท้อแท้ และเสียใจไว้เบื้องหลัง ขอจงนำภาพชีวิตดีงามกลับมาในวันที่กำลังใจของท่านถดถอย

26. หนทางเปลี่ยนโลก เริ่มต้นที่ตนเอง การเปลี่ยนแปลงโลกที่ดีและไม่ส่งผลร้ายตกค้างมีอยู่ทางเดียว จงชำระกิเลสของท่านให้หมดสิ้น แม้ท่านเป็นผู้ไร้กิเลส การกระทำทั้งปวงของท่านจักเป็นการช่วยโลกไปโดยปริยาย

27. ท่านต้องไปให้ไกลกว่าคำว่า “ถูกกฎหมาย” เพราะกฎหมายมิได้สูงส่งไปกว่าความเมตตา มีหลายสิ่งซึ่งถือว่า ถูกกฎหมาย แต่ทำลายเพื่อนมนุษย์ จงสำนึกอยู่เสมอว่า ทรัพยากรที่ท่านครอบครองอยู่เป็นสมบัติของโลก ที่ดินของท่านมิใช่ที่ดินของท่าน ต้นไม้ในสนามหญ้าหน้าบ้านก็เป็นของโลกด้วย จงคืนสิ่งเหล่านี้ให้โลกตามสมควร

28. วัยเด็กควรใช้ชีวิตให้สนุกสนาน สังคมควรให้ความสำคัญกับความสนุกสนานของเด็ก ๆ ส่วนวัยหนุ่มสาวคือช่วงเวลาแห่งการทดลอง อย่าประสบความสำเร็จเร็วเกินไป เพราะความล้มเหลวเป็นบทเรียนที่ไม่ควรข้ามผ่าน เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ การคิดถึงแต่ตนเองเริ่มเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ผู้ใหญ่ควรทำตนเป็นสะพาน ให้เด็ก ๆ และหนุ่มสาวได้ใช้ตนเองเครื่องมือสร้างปัญญา เมื่อเข้าสู่วัยชราแล้วควรปล่อยวาง กระทำตนเป็นดอกไม้งดงามของโลก มอบรอยยิ้ม และกำลังใจให้ผู้คนไม่แบ่งแยก

29. สงครามมิใช่เรื่องไกลตัว ความโกรธ เกลียดของเราคือส่วนผสมสำคัญ ลดความโลภ โกรธ หลงของตนอยู่เสมอ อย่างน้อยที่สุดก็ข่มระงับมิให้ผสมปนเปกับการกระทำและคำพูดที่หลุดจากตัวตนของท่าน

30. ขอให้ท่านฟังเสียงตนเองให้มาก เสียงของท่านมีอยู่สองเสียง หนึ่งคือ เสียงจากปัญญา สองคือ เสียงจากกิเลส จงแยกให้ออกว่า ท่านกำลังฟังเสียงตนเองในแง่ปัญญา หรือกิเลส

31. มุมหนึ่งชีวิตช่างยาวนาน มุมหนึ่งชีวิตแสนสั้น ทว่าไม่ว่ามองมุมไหน ชีวิตก็เป็นสิ่งสำคัญ จงใช้ชีวิตของท่านดุจสิ่งที่มีค่า จงแสวงหาสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าชีวิตของท่าน

32. สิ่งที่รู้มีน้อยนิด สิ่งที่ไม่รู้มีมากมาย สิ่งที่ไม่รู้ว่าตนเองไม่รู้ มากล้นพ้นทวี

33. อิสรภาพคืออะไรหรือ คือชีวิตเสรี พ้นจากพันฒนาการของลาภ ยศ สรรเสริญ สามสิ่งนี้จับท่านขังคุกมืด ทนทุกข์ เดียวดาย จงคิดขบด กล้าหาญ แหกคุก เพื่อค้นพบความกว้างใหญ่ของโลกใบนี้

34. ธรรมะคือสิ่งที่เป็นเช่นนั้น สรรพสิ่งมิเคยหลุดรอดจากความเป็นเช่นนั้น วันนี้ท่านดีใจ วันนี้ท่านเสียใจ วันหน้าท่านดีใจ วันหน้าท่านเสียใจ เป็นเช่นนั้นเอง

35. เรามักพูดกันว่า ประสบการณ์คือสิ่งดีงาม ทว่า ทุกความกังวล และทุกความกลัว ล้วนเกิดจากประสบการณ์ทั้งสิ้น จงข้ามพ้นประสบการณ์ เข้าสู่ความสดใหม่ในปัจจุบันขณะ

36. เด็กสี่ขวบ เรียกคนอายุ 40 ว่าลุง ส่วนคนอายุ 80 เรียกคนอายุ 40 ว่าหลาน มากน้อยของใคร ๆ ไม่เคยเท่ากัน เด็ก หนุ่ม แก่ ชรา คือมายาสมมุติ

37. ท่านไม่มีวันเข้าใจชีวิตจนวันตาย เพราะชีวิตเป็นเรื่องที่ไม่มีใครในโลกจะเข้าใจได้ ทว่า หนทางยังพอมี เมื่อท่านยอมรับว่า ท่านไม่มีวันเข้าใจชีวิตแล้ว จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ ก็ไม่ใช่ปัญหาของท่าน เข้าใจหรือไม่เข้าใจก็เป็นสิ่งงดงามทั้งนั้น ท่านคือผู้ไร้ความต้องการทั้งปวง

38. จงตื่นรู้อยู่เสมอ จงสร้างช่องว่างระหว่างท่านและสถานการณ์อยู่เสมอ อย่าจมลงในอารมณ์ของตน อย่าจมลงในความเป็นไปของโลก จงใช้ชีวิตอย่างผู้รู้ ผู้ดู เล่นเท่าที่จำเป็น แล้วถอยหลังออกมา ท่านจักพบว่า โลกในนี้มิใช่อะไรอื่นนอกจากละครหลังข่าวเรื่องยาว จงมองโลกด้วยความบันเทิง เริงใจ

39. ความตายอยู่ไม่ไกล ความจริงแล้วเราล้วนเกิดและตายอยู่ตลอดเวลา จงมองให้ลึกแล้วท่านจะเห็นอารมณ์ที่แปรเปลี่ยน ความคิดของท่านมิใช่ของท่าน สิ่งที่เป็นของท่านไม่มีอยู่จริง แต่ท่านจักมีอยู่จริง หากท่านกลายเป็นทุกสิ่งที่ไม่มีจริง

40. จงใช้ชีวิตอย่างคนเร่รอน อย่าได้ยึดถือสิ่งใดเป็นสรณะ จงมีความสุขและเบิกบานอยู่เสมอ ชีวิตเป็นเรื่องไม่คาดฝัน บางที เราอาจฝันว่า กำลังใช้ชีวิตอยู่ก็ได้

ขอให้ทุกท่านมีชีวิตอยู่เพื่อเรียนรู้
เหมือนกับผมซึ่งกำลังเรียนอยู่
ขอทุกท่านจงมีชีวิตอย่างผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียด
ให้การมายังโลกนี้ของท่านเป็นการพักผ่อนที่แสนวิเศษ...

พศิน อินทรวงค์

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

การตลาดที่ได้ผลดีที่สุด


 การตลาดที่ได้ผลดียอดเยี่ยมที่สุด...

ไม่ใช่การตลาดเพื่อ "ขาย" แต่เป็นการตลาดเพื่อ "ทำให้ซื้อ"

เป็นกลยุทธการตลาดที่ดึงดูดใจลูกค้าให้ชื่นชอบและคลั่งไคล้ มากกว่าจะดึงดูดแค่ความสนใจ



แบรนด์เครื่องประดับ Damiani ใช้กลยุทธนี้ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ด้วยเครื่องประดับคอลเล็กชั่นที่ทำ

ขึ้นเฉพาะสำหรับดาราฮอลลีวู้ดอย่าง กวินเน็ธ พัลโทรว์หรือชารอน สโตน เป็นต้น


ทำให้เครื่องประดับแบรนด์นี้ เป็นเครื่องประดับที่สาวๆทั่วโลกอยากจะเป็นเจ้าของนั่นเอง

กลยุทธธุรกิจของร้านเต้าหู้


ร้านขายน้ำเต้าหู้ "คงซารังดูบู" ประเทศเกาหลีใต้ เป็นร้านค้าเล็กๆขนาดไม่ถึง 33 ตารางเมตร แต่มียอดขายสูงกว่าร้านขายเต้าหู้อื่นถึง 2 เท่า ทั้งที่ราคาเต้าหู้ของร้านนี้สูงกว่าร้านอื่นเป็นเท่าตัว

เจ้าของร้านนี้เชื่อมั่นว่าทำได้ โดยการทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูงขึ้นเป็นสองเท่าเช่นเดียวกับราคานั่นเอง


ที่มาของยอดขายที่สูงคือกลยุทธ 2 อย่างนี้คือ...

1. ผลิตและจำหน่ายในวันเดียวกัน
โดยที่เขาเชื่อว่าต้องผลิตวันต่อวันเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่ที่สุดให้แก่ลูกค้า

2. ห้ามขายส่ง
เพราะถ้าขายส่งก็จะต้องวางขายไว้นานกว่าเดิม ทำให้ไม่สามารถรักษากฎข้อแรกได้

ร่วมกับดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์และนำเสนอคุณค่ของสินค้าให้สูงกว่าราคา ทำให้ร้านเต้าหู้ร้านนี้สามารถเพิ่มยอดขายเป็นสองเท่านั่นเอง

วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

กำหนดเป้าหมายชีวิต ที่มาจากความฝันของตัวเอง


 ลองทบทวนดูว่า...มีเรื่องไหนบ้างที่เราประสบความสำเร็จแล้วในปัจจุบัน และเรื่องนั้นเคยเป็นความฝันในอดีตของเรา

และลองนึกย้อนไปดูว่า...ความฝันในอดีตเป็นจริงได้อย่างไร เป็นจริงเพราะโชคช่วย หรือเป็นจริงเพราะเราได้ทำบางสิ่งบางอย่างในอดีต เพื่อให้ฝันเป็นจริงในวันนี้

การกำหนดเป้าหมายในชีวิตจากความฝันของตัวเอง ถือเป็นเป้าหมายชีวิตที่มีพลัง เพราะเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในตัวเอง ไม่ใช่สิ่งที่เกิดจากภายนอก ความฝันมักจะฝังลึกอยู่ในจิตใจ ความฝันมักเป็นสิ่งที่คนเราปรารถนา


เป้าหมายชีวิตแบบนี้...จางหายไปจากชีวิตได้ยาก และมักจะฝังอยู่กับชีวิตของเรานานพอสมควร ความฝันของเราจะหายไปได้ก็ต่อเมื่อความฝันนั้นเป็นจริงแล้ว หรือมีความฝันใหม่มาทดแทน

มีน้อยมากที่ความฝันจะจางหายไปเองตามกาลเวลา ยกเว้นว่าความฝันนั้นจะห่างไกลจากโลกแห่งความเป็นจริง หรือความฝันนั้นเป็นเพียง "ความอยาก" ชั่วครู่ชั่วยาม ไม่ใช่ความใฝ่ฝันที่แท้จริง

กลยุทธทางธุรกิจของ Trader Joe's

Trader Joe's คือสุดยอดซูเปอร์มาร์เก็ตของอเมริกา ยอดขายต่อหนึ่งตารางฟุตของ Trader Joe's สูงเป็นอันดับหนึ่งของซูเปอร์มาร์เก็ตในอเมริกา

กลยุทธทางธุรกิจอย่างแรกคือสร้างความแตกต่างระดับ High End

ด้วยการลดจำนวนสินค้าให้น้อยกว่าบริษัทคู่แข่ง 1 ต่อ 10 โดยใช้วิธีสำรวจความต้องการของลูกค้า

ดังนั้นถ้าในซูปเปอร์มาร์เก็ตอื่นมีสินค้าวางขายอยู่ 40,000 ชนิด Trader Joe's จะมีแค่ 4,000 ชนิดเท่านั้นเอง

ซึ่งไม่เป็นภาระในการจัดเก็บ ส่วนลูกค้าเองก็ไม่จำเป็นต้องคิดมากเวลาเลือกซื้อสินค้า แต่เชื่อในการคัดสรรของ Trader Joe's

ส่งผลให้ยอดขายสูงขึ้นนั่นเอง

วันพุธที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ความสำคัญของการวางแผนชีวิต


เมื่อพูดถึงเรื่อง "การวางแผนชีวิต" คนส่วนใหญ่คงจะนึกถึงเรื่องการทำงานเสียมากกว่าจะนึกถึงเรื่องการดำเนินชีวิต ทั้งๆที่ "ชีวิต" ของทุกคน สำคัญยิ่งกว่างานเสียอีก

เพราะชีวิตไม่ใช่การทำงานเพียงอย่างเดียว แต่งานต่างหากที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเท่านั้น

ถ้าเราไปถามคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ก็มักจะได้รับคำตอบเกี่ยวกับแผนชีวิตดังนี้...

* แผนชีวิตทำให้ประสบความสำเร็จ
* แผนชีวิตช่วยให้เราไม่หลงทาง
* แผนชีวิตทำได้ไม่ยาก
* แผนชีวิตเป็นเรื่องสำคัญ
* แผนชีวิตคือจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ

วันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สร้างความแตกต่างในการทำธุรกิจ


Joseph Schumpeter ผู้เขียนหนังสือ ทฤษฎีการพัฒนาเศรษฐกิจ

บอกว่าถ้าเราอยากอยู่รอดให้ได้ในตลาดที่มีผู้แข็งแกร่งจำนวนมาก

เราก็จะต้องสู้ด้วย 'กฎของตัวเอง" ไม่ใช่ "กฎของพวกเขา"


ซึ่งเมื่อคู่แข่งเหล่านั้นมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนของตัวเอง การสร้างความแตกต่างก็อาจทำได้ง่ายขึ้นด้วย เพราะเราสามารถสร้างสิ่งใหม่ด้วยการทำลายกฎเกณฑ์เดิมไปทีละอย่างนั่นเอง


"ในสถานที่ที่ทุกคนเปิดร้านขายเหล้า เราจะเปิดร้านขายเหล้าด้วยไม่ได้ เราต้องเลือกเปิดร้านขายข้าว"

ยังฮย็อนซอก (ประธานบริษัท YG Entertainment)

เริ่มเก็บเงินวันละ 1 บาท สิ้นปีก็มีเงินหมื่นได้

พอถึงช่วงสิ้นปีของแต่ละปีหลายคนอาจะเริ่มตั้งปณิธานในชีวิตกับตัวเองใหม่ โดยเฉพาะเรื่องของการเก็บเงินเพื่อให้ทุกๆสิ้นปี จะได้มีเงินเก็บเอาไว้สำหรับเที่ยวหรือซื้อของตามใจชอบบ้าง อย่างไรก็ดี สำหรับบางคนนั้น ดูจะเป็นเรื่องยากหากต้องเก็บเงินอย่างจริงจัง เพราะแต่ละวันก็จะมีรายจ่ายเข้ามาไม่ให้ขาด
แต่ล่าสุด เพจ เกลอ  ได้แปลบทความจาก savingadvice ที่ชื่อว่า 365 days saving money challenge และนำมาปรับใช้ โดยเผยถึงเคล็ดลับการออมเงินรูปแบบใหม่ ที่เก็บเงินง่าย ๆ แค่วันละ 1 บาท และทบไปเรื่อย ๆ จนเมื่อถึงสิ้นปี คุณก็จะมีเงินนับหมื่นบาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ ผู้ออมจะต้องปริ้นท์ปฏิทินเก็บเงินตามตัวอย่างนี้  แล้วเริ่มทยอยเก็บเงินนับตั้งแต่วันแรก เช่น ในวันที่ 1 ของปี ก็เก็บเงิน 1 บาท วันที่ 2 ของปี ก็เก็บเงิน 2 บาท โดยค่อย ๆ ทยอยเพิ่มเงินเก็บไปเรื่อย ๆ ทบจากของเดิมวันละ 1 บาท  แล้วภายใน 365 วัน คุณก็จะมีเงินเก็บทั้งสิ้นกว่า 66,795 บาทเลยทีเดียว

ทว่า แผนนี้ก็ดูจะทำได้ยากเกินไป สำหรับคนที่หาเช้ากินค่ำ เพราะในช่วงแรก ๆ การเก็บเงินวันละ 1-2 บาทดูจะไม่ใช่เรื่องยาก แต่หากถึงช่วงสิ้นปี จะต้องเก็บเงินวันละ 300 บาทขึ้นไปทุก ๆ วัน ซึ่งสำหรับบางคนที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบแล้ว การเก็บเงินวันละ 300 บาท หรือเดือนละเกือบ 10,000 บาท ดูจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ดังนั้น หากจะลองอีกวิธี ให้คุณเก็บเงินด้วยวิธีการทบวันละ 1 บาทไปเรื่อย ๆ ทว่าเมื่อถึงวันที่ 101 คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเงินเพิ่มเป็น 101 บาท หากแต่ย้อนกลับมาเก็บเงิน 1 บาทใหม่อีกครั้ง และเมื่อครบวันที่ 201 ก็ให้กลับมาเก็บเงิน 1 บาทใหม่อีกครั้ง โดยย้อนกลับมาเก็บ 1 บาทใหม่เมื่อครบ 100 วัน ด้วยวิธีการนี้ จะช่วยให้ตอนสิ้นปี คุณมีเงินกว่า 17,000 บาทเลยทีเดียว

ขอขอบคุณ KAPOOK


"ใช้ความถ่อมตน" เป็นเกราะกำบังในการทำธุรกิจ


 John D Rockefeller มหาเศรษฐีระดับโลก 

เป็นที่กล่าวกันว่าความมั่นใจในตัวเองของเขา ที่เชื่อว่าสามารถทำทุกอย่างตามที่ตัวเองต้องการได้นั้นน่าทึ่งมาก

วันหนึ่งน้องของเขาได้โทรศัพท์มาหาและขอให้เขาช่วยอะไรแปลกๆ นั่นก็คือขอให้ช่วยทำให้อากาศในวันพรุ่งนี้แจ่มใส

Rockefeller จึงถามว่าทำไมถึงขอให้เขาช่วย น้องชายตอบว่า "เพราะอะไรที่พี่ต้องการมันก็จะเกิดขึ้นจริง"

เขาคือร็อกกี้เฟลเลอร์ที่ไม่กลัวอะไรก็จริง แต่ถ้าดูตามชีวประวัติแล้ว เขาเป็นคนถ่อมตน

เขาบอกว่าจะรู้สึกกลัวมากเวลาที่กิจการของเขาไปได้ดี ด้วยสัญชาตญาณเขารู้ว่าศัตรูที่น่ากลัวที่สุดของธุรกิจคือใจที่จองหอง และตอนที่ธุรกิจไปได้เรื่อยๆกลับยิ่งต้องระวัง

ทุกเช้าเขาจะบอกกับตัวเองว่า "ขออย่าให้ใจที่จองหองของผมกินธุรกิจของผมเลย"

สิ่งที่สำคัญคือการมองเห็นคุณค่าของตัวเอง ถ้าเราประเมินตัวเองกับบริษัทอย่างตรงไปตรงมา เราจะไม่ทำอะไรให้เป็นไปตามมาตรฐานของคนอื่น

ร็อกกี้เฟลเลอร์ประสบความสำเร็จ โดยใช้ความถ่อมตนเป็นเกราะกำบัง

15 วิธีฝึกสมาธิสำหรับคนไม่ชอบนั่งสมาธิ 🙂


1. ฝึกอ่านหนังสือ หรือบทความยาวๆ เป็นประจำ

2. ฝึกเขียนบันทึกประจำวัน หรือเขียนอะไรด้วยดินสอ และปากกา

3. ปิดโทรทัศน์ วิทยุ อินเทอร์เน็ต และเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดแล้วอยู่กับตนเองเงียบๆ ทำทุกวันให้เป็นนิสัย

4. ฟังเพลงบรรเลงที่ไม่มีเนื้อร้อง (ทั้งในรถยนต์ และที่บ้าน)

5. วิ่งหรือออกกำลังกายแบบนับลมหายใจไปด้วย

6. ฟังคลิปธรรมะ ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เป็นประจำ

7. หาอุปกรณ์ที่สร้างจังหวะมาวางข้างๆ แล้วหลับตาฟัง เช่น ฟังเสียงเข็มนาฬิกา เป็นต้น

8. ทำทุกอย่างให้ช้าลง เดินให้ช้าลง เคลื่อนไหวให้ช้าลง แล้วรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของตนเอง

9. จินตนาการถึงการทำงานของโครงกระดูกของตนเอง ในขณะที่เคลื่อนไหว ว่าแต่ละครั้งที่เคลื่อนไหวนั้น โครงกระดูกของเราอยู่ในลักษณะใด

10. รับประทานสิ่งใด กินให้รู้รสของสิ่งนั้น อยู่กับสิ่งที่เรากำลังกิน อย่าพูดคุยขณะที่อาหารเข้าปาก แต่ให้สังเกตการรับรู้ของลิ้นและความรู้สึก

11. ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างเหมาะสม มีเวลาจำกัด อย่าใช้ทุกเวลาตามที่ใจต้องการ

12. หาต้นไม้มาปลูกที่บ้าน รดน้ำ พรวนดิน และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของต้นไม้

13. พูดให้น้อยลง สังเกตสิ่งรอบตัวให้มากขึ้น

14. เปลี่ยนจากเดินห้าง ไปเดินสวนสาธารณะ ชมงานศิลปะ หรือชมธรรมชาติในสถานที่เงียบๆ

15. ศึกษา ค้นคว้า จนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า สมาธิมีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตของเราอย่างไร เพราะเมื่อเรารู้เข้าใจอย่างแท้จริง เราจะเห็นถึงคุณประโยชน์ เปิดใจรับ และตัดสินใจลงมือทำมันด้วยตนเอง

พศิน อินทรวงค์


วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

สอนลูกให้มั่งคั่ง ตั้งแต่เด็ก


หางานสร้างสรรค์ให้ลูกทำ เพื่อหาเงินไว้ฉลองวันเกิดหรือเล่นสนุกในวันปีใหม่

คุณสามารถปลูกฝังเรื่องการทำมาหากินกับลูกได้ ตั้งแต่เขายังเด็ก การสอนลูกเช่นนี้จะไม่ทำให้เขาเคยตัว ว่าอยากได้อะไรต้องได้


ควรสอนเขาว่า ถ้าอยากได้อะไร เขาก็ต้องทำงานแลกมันมาด้วยตัวเอง อาจจะหากิจกรรมที่เขาชอบแล้วสนับสนุนเขาให้ต่อยอดให้เกิดรายได้ขึ้นสักวัน


ใช้จ่ายให้เป็นตัวอย่าง แล้วลูกๆจะปฏิบัติตามเอง
ในเรื่องนี้อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง แต่ถ้าคุณเปลี่ยนแปลงทัศนคติของตนเองได้แล้ว ลูกๆจะเอาเป็นแบบอย่างได้เอง